วันครูแห่งชาติ

วันไหว้ครู 


               วันไหว้ครู โดยปกติจะตรงกับวันพฤหัสบดีแรก ของเดือนมิถุนายน (เดือน ๖) ของทุกๆ ปี ถือว่าเป็นวันสำคัญอีกวันหนึ่งของประเทศไทย โดยจุดประสงค์ก็คือ ให้ลูกศิษย์ทั้งหลายได้มีโอกาสแสดงความกตัญญูกตเวที แก่ครูบาอาจารย์ที่ได้อบรม สั่งสอน และให้ความรู้มา เป็นประเพณีที่ดีงาม อันสืบทอดมาแต่โบราณกาล


ประโยชน์ของการไหว้ครู

          การไหว้ครูเป็นการแสดงออกซึ่งลักษณะที่ลูกศิษย์พึงกระำทำต่อครูบาอาจารย์ ในฐานะที่ท่านเสียสละอบรมดูแลลูกศิษย์ และแนะนำไปในทางที่ดี ประโยชน์ของการไหว้ครู มีดังต่อไปนี้

          1. ผู้ไหว้ได้รับความเมตตาจากผู้ถูกไหว้
          2. เพื่อให้ผู้ไหว้ได้มีโอกาสรำลึกนึกถึงพระคุณของครูบาอาจารย์ ที่่ท่านได้อุปการะสั่งสอนเรามา
          3. ช่วยให้ผู้ถูกไหว้หันมาสำรวจตรวจตราพัฒนาตนเอง
          4. ได้รักษาเอกลักษณ์วัฒนธรรมไทยไว้
          5. เพื่อให้ผู้ไหว้ได้มีโอกาสแสดงความกตัญญูกตเวที อันเป็นแบบอย่างที่ดีงาม 
          6. เพื่อสร้างความผูกพัน ระหว่างครูอาจารย์กับลูกศิษย์ ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น


          โบราณท่านกล่าวว่า "ศรต้องมีพิษ ศิษย์ต้องมีครู ศิษย์มีครูเหมือนงูมีพิษ ศิษย์ไม่มีครู เหมือนงูไม่มีพิษ" และ "ศิษย์ดีต้องมีคุณธรรม ศิษย์ไม่ได้ความคุณธรรมไม่มี" คุณธรรมของผู้ที่เป็นลูกศิษย์ คือ ความอ่อนน้อมถ่อมตน เคารพต่อผู้ใหญ่ ไม่แข็งกระด้าง และแนะนำได้ง่าย เปรียบเหมือนกับต้นข้าว ข้าวต้นใดที่อ่อน มีเมล็ดข้าวเต็มรวง ย่อมโน้มลำต้นลงสู่พื้น เป็นเช่นกับลูกศิษย์ที่มีความอ่อนน้อม มีสัมมาคารวะ ย่อมได้ความรู้ไปอย่างเต็มที่ แต่ถ้าหากข้าวต้นใดที่ลำต้นแข็งกระด้าง ตั้งลำต้นชี้ฟ้า ข้าวต้นนั้นย่อมมีเมล็ดไม่มากนัก และเมล็ดข้าวก็จะลีบ เปรียบเหมือนลูกศิษย์ที่มีความแข็งกระด้าง ไม่อ่อนน้อมถ่อมตน ย่อมหาความรู้ใส่ตัวได้ยาก ฉันนั้น


คำกล่าวไหว้ครู ทำนองสรภัญญะ

                         ปาเจรา จริยา โหนติ คุณุตตรา นุสาสกา ฯ

                       ข้าขอประณตน้อมสักการ                บูรพคณาจารย์ 
              ผู้กอปรเกิดประโยชน์ศึกษา
                       ทั้งท่านผู้ประสาทวิชา                   อบรมจริยา 
              แก่ข้าในกาลปัจจุบัน
                       ข้าขอเคารพอภิวันท์                      ระลึกคุณอนันต์ 
              ด้วยใจนิยมบูชา
                       ขอเดชกตเวทิตา                         อีกวิริยะพา 
              ปัญญาให้เกิดแตกฉาน
                       ศึกษาสำเร็จทุกประการ                  อายุยืนนาน 
              อยู่ในศีลธรรมอันดี
                       ให้ได้เป็นเกียรติเป็นศรี                   ประโยชน์ทวี 
              แก่ข้าและประเทศไทย เทอญ ฯ
                      
                    ปัญญา วุฑฒิ กเร เต เต ทินโนวาเท นมามิหํ ฯ


คำปฎิญาณตน

           เราคนไทย ใจกตัญญู รู้คุณชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
           เรานักเรียน จักต้องประพฤติตน ให้อยู่ในระเบียบวินัย ของโรงเรียน มีความซื่อสัตย์ ต่อตนเอง และผู้อื่น
           เรานักเรียน จักต้องปฏิบัติตน ไม่ให้เป็นที่เดือดร้อน ต่อตนเองและผู้อื่น


ความหมายของดอกไม้ต่างๆ ที่นิยมใช้ในการไหว้ครู



          ดอกมะเขือ เป็นดอกที่โน้มต่ำลงมาเสมอ ไม่ได้เป็นดอกที่ชูขึ้น คนโบราณจึงกำหนดให้เป็นดอกไม้สำหรับไหว้ครู ไม่ว่าจะเป็นครูดนตรี ครูมวย ครูสอนหนังสือ ก็ให้ใช้ดอกมะเขือนี้ เพื่อศิษย์จะได้อ่อนน้อมถ่อมตนพร้อมที่จะเรียนวิชาความรู้ต่างๆ นอกจากนี้มะเขือยังมีเมล็ดมาก ไปงอกงามได้ง่ายในทุกที่ เช่นเดียวกับหญ้าแพรก



          หญ้าแพรก เป็นหญ้าที่เจริญงอกงาม แพร่กระจายพันธ์ ไปได้อย่างรวดเร็วมาก หญ้าแพรกดอกมะเขือจึงมีความหมายซ่อนเร้นอยู่ คนโบราณจึงถือเอาเป็นเคล็ดว่า ถ้าใช้หญ้าแพรกดอกมะเขือไหว้ครูแล้ว สติปัญญาของเด็กจะเจริญงอกงามเหมือนหญ้าแพรกและ ดอกมะเขือนั่นเอง



          ดอกเข็ม เพราะดอกเข็มนั้นมีปลายแหลม สติปัญญาจะได้แหลมคมเหมือนดอกเข็ม และก็อาจเป็นได้ว่า เกสรดอกเข็มมีรสหวาน การใช้ดอกเข็มไหว้ครู วิชาความรู้จะให้ประโยชน์กับชีวิต ทำให้ชีวิตมีความสดชื่นเหมือนรสหวานของดอกเข็ม 



          ข้าวตอก เป็นข้าวที่เกิดจากการใช้เมล็ดข้าสารไปคั่ว โดยมีฝาครอบไว้ เมื่อได้รับความร้อนระดับหนึ่ง เมล็ดข้าวก็จะพองตัวและแตกตัวออกเป็นข้าวตอก มีกลิ่นหอม เช่นเดียวกับการให้การศึกษา ครูผู้สอนต้องให้การอบรมคู่กันไปด้วย "อบเพื่อให้สุก รมเพื่อให้หอม" เช่นเดียวกับการทำข้าวตอก
          การสั่งสอนอบรมของครู บางครั้งต้องมีการว่ากล่าวตักเตือน ติติงหรือทำโทษ ในการกระทำที่ไม่เหมาะสมเสมือนการใช้ความร้อนกับเมล็ดข้าว โดยมีกฏระเบียบหรือแนวปฏิบัติ เสมือนเป็นฝาครอบ ไม่ให้ลูกศิษย์กระเด็นกระดอนออกนอกลู่นอกทาง ครูจึงต้องทำหน้าที่สั่งสอนอบรมให้นักเรียน นักสึกษาเป็นดังเช่นข้าวตอก คือ "สุกและหอม" ซึ่งหมายถึง การสั่งสอนแนะนำให้เขามีความรู้ความสามารถและเป็นคนดีที่ยอมรับนั่นเอง


วันครู...ไหว้ครูวันนี้

          สำหรับการไหว้ครูในปัจจุบันตามโรงเรียนต่างๆ มักจะเลือกวันในช่วงสัปดาห์แรกๆ เพื่อจัดพิธีไหว้ครู ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับตามสะดวกของสถาบันการศึกษาแต่ละแห่ง ซึ่งความต่างของวันไหว้ครูในยุคนี้ เราจะสังเกตเห็นว่าเครื่องสักการะที่นักเรียนนำมาไหว้ครูนั้น นับวันจะหมดความหมายลงไปทุกที
นักเรียนส่วนใหญ่มักซื้อดอกไม้ที่สวยงามจากตลาดแทนการใช้เครื่องสักการะที่มี ความหมายซึ่งใช้กันมาแต่โบราณ และมักไม่ใช้ความสามารถของตนในการจัดพานเครื่องสักการะครู  ส่วนใหญ่จะจ้างผู้มีฝีมือในทางด้านนี้ทำให้แบบสำเร็จรูป  ถ้าหากเราจะรณรงค์ให้มีการตระหนักถึงคุณค่าของการไหว้ครูอย่างแท้จริง โดยร่วมแรงร่วมใจกันจัดพาน ใช้ดอกมะเขือ หญ้าแพรกเป็นสื่อความหมาย ก็น่าจะเป็นเรื่องดีไม่น้อย เพราะการปลูกมะเขือและหญ้าแพรกนั้นง่ายกว่า และประหยัดกว่าการซื้อดอกไม้อื่นๆ มากมายนัก


ขอขอบคุณ ข้อมูลจาก
             - http://bantachan.igetweb.com/index.php?mo=3&art=159515
             - http://ohsons2.blogspot.com/2008/06/16.html

ไม่มีความคิดเห็น: